สำหรับประเทศไทย สถานการณ์ค่อนข้างน่ากังวลเนื่องจากถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบสูง:
ประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงส่งเสริมผลประโยชน์ของประชาชนชาวอเมริกันด้วยการเรียกร้องให้คู่ค้าลดอุปสรรคด้านภาษีศุลกากรและไม่ใช่ภาษีศุลกากร และขยายการเข้าถึงตลาดสำหรับผู้ส่งออกของอเมริกา
- รายได้ลดลง: การลดชั่วโมงทำงาน หรือการเลิกจ้าง ย่อมส่งผลโดยตรงต่อรายได้ครัวเรือน ทำให้กำลังซื้อลดลง กระทบต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
“ถ้าพวกคุณต้องการให้ภาษีนำเข้าเป็นศูนย์ ก็มาผลิตสินค้าในสหรัฐฯ
ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ที่คุณสะดวกหรือใช้งานอยู่แล้วได้เลย
“ถ้าส่งออกไปสหรัฐติดลบจะกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรงก็ก้อนใหญ่ที่ส่งไปสหรัฐ ทางอ้อมคือที่ส่งไปประเทศอื่น อย่างจีน เวียดนาม ยุโรปที่จะลำบากมากขึ้นตามกำลังซื้อที่อ่อนแอลง”
สินค้าส่งออกหลักจำนวนมากของไทยพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ สูง และจะได้รับผลกระทบโดยตรง:
กองทุนส่วนบุคคล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์/กองทรัสต์ กองทุนแนะนำ พันธมิตรระดับโลก การลงทุนอย่างยั่งยืน เปิดบัญชี บริการลูกค้า
- ความมั่นคงทางอาชีพ: พนักงานในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก (แม้ไม่ใช่สายการผลิตโดยตรง เช่น ฝ่ายขาย Trump ขึ้นภาษี การตลาด บัญชี หรือโลจิสติกส์) อาจได้รับผลกระทบหากบริษัทต้องปรับลดขนาดองค์กรหรือชะลอการเติบโต
แจ้งความประสงค์ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี
การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
ผู้เชี่ยวชาญเผยเหตุผล ‘บัตรทองทรัมป์’ อาจไม่ดึงดูดผู้อพยพมั่งคั่งต่างชาติ
เว็บไซต์ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ดำเนินการโดยใช้ข้อมูลและคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการเจรจาการค้า
ในส่วนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังไม่มีความเห็นเพิ่มเติมต่อกรณีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าฯ ของสหรัฐฯ
แม้สหรัฐฯ จะเปิดรับการหารือและทำข้อตกลงทางการค้าเพิ่มเติม แต่ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังดำเนินการเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าในอนาคต